SOCIAL MEDIA

Dec 26, 2015

Favorite Beauty Products of 2015!! ใช้แล้วดีใช้แล้วชอบ ประจำปี 2015


ตลอดปี 2015 ที่ผ่านมานั้น ได้มีโอกาสได้ลองอะไรใหม่ๆเยอะ โดยเฉพาะพวก beauty products ที่ใครว่าดี เราก็ไปหาซื้อมาลอง ลองผิดลองถูกกว่าจะได้เจอสิ่งที่ใช่นี่ก็นานและหมดเงินไปเยอะ แถมสิวบุกอีก จนสุดท้ายก็เจอสิ่งที่ถูกกับหน้าตัวเอง แต่ว่าหลายๆชิ้นนี่อาจจะไม่มีขายตามเคาเตอร์ในไทยทั่วไป เพราะเราซื้อใช้ช่วงที่เรายังเรียนอยู่ที่กลาสโกว ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยน๊า



แบ่งเป็น 2 parts คือ Skincare, Makeup



Skincare
มาเริ่มกันที่การดูแลผิวหน้ากันก่อนดีกว่าเนอะ ขอบอกก่อนว่าเราเป็นคนผิวมัน และ มีรอยสิวทั่วหน้า ยังดีหน่อยที่สิวไม่ค่อยขึ้นแล้วจะเหลือก็แต่ร่องรอย ทั้งดำ ทั้งแดง ทิ้งเอาไว้ให้ปวดใจ ตอนนี้เลยต้องพึ่งเลเซอร์ช่วย ซึ่งก็ยังไม่ค่อยเห็นผลเท่าไรนัก เอาเป็นว่าเรามาดูกันที่ตัวแรกกันก่อนดีกว่าค่ะ

1. SK-II Facial Treatment Gentle Cleanser
เริ่มใช้ครั้งแรกประมาณปลายปีที่แล้วตอนกลับไทยมาช่วงคริสมาสต์ แล้วแม่เอาของแม่มาให้ลองใช้เลยติดใจยึดของแม่มาใช้ จนถึงตอนนี้ก็เป็นหลอดที่สามแล้ว เป็นโฟมล้างหน้ายี่ห้อแรกเลยที่ใช้จนหมดหลอด ไม่เปลี่ยนไปมาระหว่างใช้ เพราะชอบมาก ตรงที่มันอ่อนโยน ล้างสะอาด ล้างเสร็จแล้วหน้านุ่มไม่แห้งตึง แถมกลิ่นก็หอมอ่อนๆ ใช้แล้วรู้สึกผ่อนคลาย 



มีอยู่ช่วงนึงประมาณเดือนที่แล้วมันหมด แล้วปกติจะซื้อจาก duty free  ด้วยความที่มันแพง ซึ่งตอนนั้นก็มีบินกลับไปรับปริญญาพอดี ก็ไปซื้อมาตุนไว้ แต่ก็นะ คนมันชอบลอง เลยไม่ได้กลับไปใช้ในทันที แต่ไปลองตัวอื่นได้สักประมาณ 2 อาทิตย์ เท่านั้นแหละ รู้เรื่องเลย! สิวบุกแบบ โอ้โหหหหห...ตรงทีโซนนี่มาเต็มเลยโดยเฉพาะตรงกลางหน้าผาก ทั้งที่ปกติไม่เคยขึ้นตรงนี้ ถ้าจะขึ้นคือจะขึ้นตรงแก้มกับคางเท่านั้น เราเลยไม่ได้ละ ต้องกลับมาใช้ตัวนี้ ซึ่งพอกลับมาใช้ตัวนี้สิวก็เริ่มเบาลง ไม่ปูดเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ไม่หายไปทันที ก็ยังต้องพึ่งยาแต้มสิวกันต่อไป....

2. SK-II Facial Treatment Clear Lotion
โลชั่นที่เราใช้เป็นโทนเนอร์โดยการเหยาะใส่สำลีแล้วเช็ดผิว เราว่าเป็นตัวนึงที่ทำหน้าที่ในการเช็ดคราบสกปรกที่ตกค้าง พร้อมกับเตรียมผิวเพื่อบำรุงในขั้นต่อไปได้ดี เราใช้ตัวนี้แล้วตามด้วยเซรั่มของ sulwhasoo บอกเลยว่าเป็นคู่สร้างคู่สมสำหรับเรามาก!! คือผิวละเอียดขึ้น ดูสุขภาพดี ใสขึ้นจริง!  



แต่ติดอย่างนึงที่เราไม่ชอบคือ packaging ของมัน เป็นขวดแก้ว แล้วฝาหมุนปิดๆ ซึ่งเราเป็นคนที่ชอบพกไซส์จริงเวลาเดินทางเนื่องจากสะดวกดี และขี้เกียจเปลี่ยนถ่ายมาใส่ไซส์เล็กๆ แล้วมีครั้งนึง ปิดฝาไม่สนิท เปิดออกมานี่อยากจะร้องไห้ จากเกินครึ่งขวดเหลืออยู่ประมาณ 1/4 



3. Pixi Glow Tonic

ตัวนี้ไปได้มาช่วงที่ลงไปลอนดอน ประจวบเหมาะกับ sk-ii หกเหลืออยู่นิดนึงพอดี เลยซื้อมาลอง ซึ่งทางแบรนด์เค้าเครมไว้ว่า ช่วยผลัดเซลล์ผิว ช่วยให้ผิวกระชับขึ้น แถมยังไม่มี alcohol พอได้ลองใช้แล้วก็รู้สึกผิวกระชับขึ้นนิดนึง แต่สิ่งที่ชอบคือกลิ่นที่จะหอมสมุนไพรอ่อนๆ  ตอนนี้ก็ใช้สลับกับตัว sk-ii 




4. Fresh Sugar Face Polish

สครับและมาร์กนํ้าตาลตัวฮิตของแบรนด์ กลิ่นนี่ชนะเลิศ! หอมมากกกกก เม็ดสครับก็ละเอียดสุดๆไม่บาดหน้าเลย เราจะสครับวนๆหน้าแป๊บนึงแล้วจะมาร์กทิ้งเอาไว้ ล้างออกแล้วหน้านุ่มมาก 




5. Sulwhasoo First Care Activating Serum EX

มาถึงลูกรัก ในรูปนี้จะเป็นรุ่นใหม่ที่เค้าปรับสูตรแล้ว (เราไม่รู้ว่าเค้าปรับอะไรยังไงนะ แต่คิดว่าน่าจะเข้มข้นขึ้นแหละ) ปกติเราจะใช้รุ่นเก่า เพิ่งได้ลองรุ่นใหม่ตัวนี้ได้ประมาณสองอาทิตย์ ซึ่งยังไม่เห็นผลที่ได้ชัดว่าต่างจากตัวเดิมก่อนปรับสูตรไหม แต่ถ้าเป็นรุ่นเดิมที่ไม่มีตัว EX ตามหลังนี่คือเป็นตัวที่ชอบที่สุดแล้ว เนื้อเซรั่มซึมเร็วไปกับหน้าเลย ไม่หนักหรือเหนอะหนะ เหมาะกับคนผิวมัน ตอนที่เราเรียนอยู่กลาสโกวอากาศก็จะหนาว แต่ตัวนี้ตัวเดียวเอาอยู่! หน้าไม่แห้งไม่แตก! เลิศมาก! ยิ่งใช้คู่กับตัวโลชั่นของ sk-ii แล้วรับรองว่าเห็นผลได้เร็วขึ้น! ผิวจะละเอียดรูขุมขนเล็กลง หน้าดูใสแบบสุขภาพดี 



เราเคยไปซื้อที่ Dongwha Duty Free ที่เกาหลีเมื่อ พ.ค ปีที่แล้ว คือถูกกว่าจริง แต่ไม่ได้ของแถมหรือเทสเตอร์อะไรเลย ครั้งล่าสุดตอนตุลาเลยไปซื้อที่ห้าง  Lotte ตรงมยองดง ซึ่งสามารถทำ Tax Refund ได้เงินคืนที่ห้างเลย ไม่ต้องไปทำที่สนามบิน แถมยังให้เทสเตอร์เยอะ แต่ถ้าใครมีเวลาก่อนบิน ไปคิงพาวเวอร์ตรงรางนํ้าก็ได้ ทั้งถูกกว่า ได้ลด%เพิ่ม แถมได้เทสเตอร์อีก คุ้มนะ ส่วนราคาในเคาเตอร์ตามห้างไทยเราไม่ทราบเลยเพราะไม่เคยซื้อจริงๆ 



6. Lush Enchanted Eye Cream
ในรูปรวมข้างบนคือเราลอกฉลากออก เพราะฉลากของ Lush ส่วนใหญ่ใช้ไปนานๆแล้วมันจะลอกมีผงดำๆติดมือออกมา จริงๆแล้วหน้าตามมันจะเป็นแบบนี้




ส่วนผลของการใช้คือ เนื้อครีมซึมเร็ว ไม่ระคายเคือง ทาแล้วใต้ตาจะนุ่ม แพนด้าจางลงนิดนึง แต่! ไม่ช่วยเรื่องริ้วรอยนะ เราเป็นคนใต้ตามีริ้วรอยเพราะเป็นคนชอบขยี้ตา ซึ่งโดยรวมแล้วเราว่าก็เป็น eye cream ตัวนึงที่ดี และ ราคาไม่แพงมากจนเกินไป เสียดายในไทยไม่มี แต่ก็สามารถหาซื้อได้ที่ประเทศใกล้ๆอย่าง ฮ่องกง มาเก๊า เกาหลี ญี่ปุ่น 



7. Nivea Lip Butter

ลิปตัวนี้ใช้มานานหลายปีแล้วตั้งแต่ยังอยู่ประมาณปี 3 คือดู youtuber คนนึง เห็นนางใช้แล้วจึงเกิดความอยากขึ้นมาจนไปเจอร้านหิ้วในเนต เลยลองสั่งมาดู เราว่าเรื่องความชุ่มชื่นนี่ก็ทำได้ดีพอๆกับยี่ห้ออื่น แต่เรื่องกลิ่นนี่ชนะเลิศ เราจะชอบสีม่วงแบบในรูปกับสีชมพู raspberry rose kiss ที่สุดจากทุกสูตร หากนึกภาพไม่ออกให้นึกถึงซูกัสสีม่วงกับสีชมพู กลิ่นนั้นแหละใช่เลย เรียนจบกลับมานี่ซื้อตุนจาก boots มาหลายอัน คิดว่าคงอยู่ได้อีกนาน 5555 แต่ตัวนี้จะทาเฉพาะตอนกลางคืนนะ ตอนกลางวันก็จะใช้แบบแท่งยี่ห้ออื่นเปลี่ยนไปเรื่อยๆ 



8. Bifesta Cleansing Liquid & Biore Makeup Remover for Eye and Lip

ลืมถ่ายรูปสองตัวนี้มา สำหรับตัวcleansing liquid นั้นเราว่าล้างได้สะอาดดี ไม่ต้องใช้สำลีทำให้ลดการเสียดสีบนใบหน้า นวดๆหน้าไปแล้วบางทีก็มีสิวเสี้ยนหลุดออกมาด้วย แต่ถ้าวันไหนขี้เกียจเราก็จะใช้ตัว Bioderma สีชมพูแทน ส่วนตัว biore นี่เราจะใช้ก่อนโดยเริ่มจากเช็ดตาคิ้วแล้วตามด้วยปาก สะอาด ไม่ระคายเคืองหรือแสบตาเหมือนบางยี่ห้อ


.

.

.

Makeup
มาถึงพวกเครื่องสำอางค์กันบ้าง ที่ชอบจริงๆปีนี้จะเน้นไปทางด้าน base makeup เพราะรู้สึกงานผิวเป็นสิ่งที่สำคัญนะ อีกอย่างเป็นคนที่มีรอยดำรอยแดงสิวเยอะมากตรงแก้ม เลยมองหาอะไรที่จะมาช่วยให้เรามั่นใจมากขึ้นในตรงนั้น

1. Sulwhasoo Perfecting Cushion

คงจะเห็นรีวิวของตัวนี้กันมาเยอะแล้ว เอาเป็นว่า ปกปิดดีเยี่ยม ดูธรรมชาติ ไม่ดูหนา ถือเป็น cushion ลูกรักตัวเดียวจากที่ได้ลองมาหลายๆแบรนด์ เราใช้เบอร์ 23 ซึ่งเหมาะกับสีผิวเราพอดี ทำให้หน้าดูเนียน ผ่อง ไม่ขาวและไม่เข้มจนเกินไป ตกเย็นหน้าก็ยังผ่อง ไม่หมอง แค่ซับมันตรงจมูกกับหน้าผากออกก็กลับมาเด้งเหมือนเดิม




2. Charlotte Tilbury Magic Foundation 

ดีงาม สมกับเป็น Magic Foundation คือทาแล้วรู้สึกบาเบากลืนไปกับผิว แต่ปกปิดได้ medium-full coverage ผิวมันใช้ได้ไม่มีปัญหา ตอนออกมาวางขายนี่คือเรากลับไทยมาได้ไม่กี่วันแล้วอะไรคือวางขายแล้ว?!!! แล้วตอนนั้นคือซื้อตุนอีกรุ่นไว้ แถมยังไม่แน่ใจว่าจะได้กลับไปรับปริญญาด้วยหรือปล่าว นี่เลยกรีดร้อง บ่นให้แม่ฟังไปหลายรอบอยู่ จนได้มารับปริญญาแล้วแวะซื้อที่ Harrods ก่อนกลับ คือไม่ผิดหวังจริงๆที่ซื้อมา แต่ติดอย่างนึงตรงฝามันเหมือนจะปิดไม่สนิทคือเคยจับแต่ตรงฝาขึ้นมาขวดหล่น ดีที่หล่นลงบนโต๊ะเลยไม่แตก ไม่แน่ใจว่าเป็นเฉพาะของเราหรือปล่าว




3. Charlotte Tilbury Light Wonder Foundation

รองพื้นตัวแรกของแบรนด์นี้ ตอนแรกที่ไปลองก็คิดว่าจะไม่ซื้อเพราะรู้สึกว่ามันบางเบา คงไม่ช่วยเรื่องรอยสิวบนหน้าเท่าไหร่ แต่ก็เอาน่ะ!ไหนๆก็มาละซื้อไปลองซักหน่อยคงไม่เสียหาย แถมพนักงานก็บอกใช้ได้ไม่มีปัญหาเหมาะกับทุกสภาพผิว....สรุปเป็นลูกรักอีกตัวใช้ทุกวันจนต้องไปซื้อมาตุนไว้อีกอันก่อนกลับไทย ถ้าเปียบเทียบระหว่างตัวข้างบนกับตัวนี้ รุ่นนี้จะเน้นจะปกปิดน้อยกว่า รู้สึกเบาหน้ากว่าตัวข้างบน แต่ถ้าเทียบกันแล้วเราชอบตัวข้างบนมากกว่า




4. eSpoir Dewy Face Glow

บอกเลยว่าตัวนี้ซื้อตามพี่โมเมพาเพลิน จากคลิปที่พี่โมเมเล่าให้ฟังว่าไปวอแวกับพนักงานที่ร้านเพราะตามหาทั่วโซลไม่เจอ เราเองก็ไปตามหานะ แต่ไปเจอร้านที่สองที่เข้าไปหาเลย ตอนแรกไปตรงฮงแดไม่มี ไปได้มาจากสาขามยองดง เนื่องด้วยอากาศที่เกาหลีเค้าจะเย็นและแห้งกว่าบ้านเรามาก ซื้อมาแล้วก็ลองใช้ที่นั่นเลย หน้าก็ผ่องๆ โกลวๆ สไตล์เกาหลีดี คือเราจะลง cushion ก่อนแล้วลงตัวนี้ทับตอนระหว่างเที่ยวอยู่เกาหลี  พอมาใช้ที่ไทยมันไม่ได้ไงจากโกลวเดี๋ยวมันจะเยิ้มซะก่อน เลยผสมกับรองพื้นก่อนแล้วค่อยทาลงหน้า คือโอเคเลย หน้าดูโกลว ไม่มันเยิ้ม เราใช้ตัวนี้ด้วยตอนไปรับปริญญา ถ่ายรูปออกมาสวยใช้ได้ดูมีออร่าขึ้น ฮาาาา คิดว่าอาจจะไปซื้อมาเพิ่มตอนไปเกาหลีช่วงปีใหม่นี้




5. Charlotte Tilbury Airbrush Flawless Finish

แป้งฝุ่นอัดแข็งเหมาะแก่การเซ็ตรองพื้น เราใช้สี 1 Fair ซึ่งเป็นสีอ่อนสุดจากทั้งมดสามสี แต่ปัดออกมาจริงๆแล้วแทบไม่เห็นสีเลยจึงไม่ทำให้สีรองพื้นเพี้ยนแน่นอน เป็นอีกตัวที่ชอบแล้วซื้อมาตุนไว้อีกอันแล้วเรียบร้อย  




6. Innisfree Mineral Stick Concealer

เป็นครั้งแรกที่ใช้ได้ลองใช้ stick concealer เพราะคิดมาตลอดว่ามันเกลี่ยยาก ปกปิดไม่มิด จนได้มีโอกาสจำเป็นต้องใช้เพราะตอนไปเกาหลีเมื่อตุลาที่ผ่านมาลืมเอา concealer ไปด้วย นี่เลยลองสอยตัวนี้มาลองเพราะเห็นว่ามันถูกดี สรุปว่าปลื้มมาก เพราะมันเกลี่ยง่าย ปกปิดดีเนียนไม่เป็นคราบ แต่เราว่ามันแห้งไปสำหรับใต้ตาทำให้ตกร่องได้ เลยจะใช้แค่เฉพาะรอยสิวเท่านั้น




7. Hourglass Ambient Lighting Blush #RADIANT MAGENTA

ตอนไปลองปาดเล่นที่เคาเตอร์ในห้าง Liberty หูยยยยยยยยย คือโดนมาก ตัวเนื้อบลัชเองลองเอานิ้วปาดแล้วมันก็จะแบบนุ่มๆลื่นผิวอ่ะ คือไม่เหมือนpowder blushแบบทั่วไป แต่เห็นราคาแล้วชั่งใจก่อนแป๊บนึง พนักงานขายนางก็เชียร์ให้ซื้อเป็นพาเลทที่มีสามสี เราก็เตือนสติกับตัวเองว่าบลัชออนมีเยอะแล้วเอาอันเดียวก็พอ จนเลือกสีได้แต่ปรากฎสีที่ตอนแรกจะเอาหมดจ้าาาา... เลยลองสีอื่นปาดไปปาดมา จนมาจบที่สีนี้ ตอนแรกก็แอบกลัวว่าจะชมพูไปไหมเพราะดูจากในตลับมันชมพูนะ พอปาดดูแล้วเออก็ไม่ พอมาลองที่หน้าตัวเอง กริ๊ดดดดด! สวยมาก สีมพูอมส้มแดงนิดๆคือบอกไม่ถูกอ่ะ ปัดแล้วดูดี ที่สำคัญติดทนมาก แต่ตอนปัดต้องระวังน๊า pigment เค้าแน่นจริง! แค่แตะที่ตลับนิดเดียวแล้วปัดเอา ถ้ายังไม่พอค่อยปัดเพิ่ม อย่ามือหนักแต่แรกถ้าไม่อยากแต่งหน้าใหม่ 




8. Rimmel London Brow This Way Eyebrow Sculpting Kit

ตรงตลับจะเขียนอธิบายว่าด้านซ้ายเป็น wax ส่วนด้านขวาเป็น powder โดยให้เริ่มจากด้านซ้ายก่อนเพื่อให้คิ้วได้รูปและเติมคิ้วให้เต็มแล้วค่อยลงด้านขวาที่เป็นแป้งเพื่อเซ็ตให้อยู่ทรง สำหรับเราเองด้วยความที่เป็นคนคิ้วเข้มอยู่แล้ว ถ้าลงด้านซ้ายด้วยนี่คือคิ้วจะเข้มขึ้นมาอีกเท่าเลย เลยจะใช้แค่ด้านขวาเท่านั้น ตัวแปรงที่แถมมานั้นก็ถือว่าใช้งานได้ดีมีประสิทธิภาพอยู่ เห็นในเวปบอกว่ามีสองสี แต่เวลาไปซื้อที่ boots ที่ไรคือจะมีอยู่สีนี้สีเดียวตลอดแล้วมักจะเหลืออยู่ 2-3 อันตลอด ขายดีมว๊ากกกก ถูกด้วยอันละประมาณ £4 แล้วใช้ที่นึงก็นิดนึง ถือว่าคุ้มสุดๆ


9. Stila Stay All Day Waterproof Liquid Eye Liner
สีดำสนิท เส้นคมชัด เขียนง่าย ไม่เป็นแพนด้า ไม่หลุดลอกเป็นผงดำๆให้เปรอะหน้า




10. Maybelline New York Lash Sensational Lash Multiplying Mascara

ลืมถ่ายรูปเดี่ยวๆมา เป็นมาสคาร่าที่ทำให้กลับมาใช้ของยี่ห้อนี้หลังจากไปหลงรักกับฝั่งญี่ปุ่นอยู่นาน ตัวนี้ปัดแล้วขนตาเด้ง เรียงเส้นสวยไม่เป็นก้อน ที่สำคัญไม่แพนด้าเลยเวลาที่ปัดขนตาล่าง 


.

.


12. Rimmel London Kate Lasting Finish #08
สีมพูนู๊ดที่ไม่ทำให้ดูป่วย เป็นสีสุภาพ ทาได้ทุกโอกาส ทาแล้วสีปากดูสุขภาพดีเป็นธรรมชาติรู้สึก(เอาเอง)เหมือนกับว่าปากฉันนี่สีนี้แต่เกิดนะจ๊ะ

13. Charlotte Tilbury Lipsticks

#AMAZING GRACE
สีนี้จะเป็นรุ่นเนื้อ matte ที่ไม่ด้านจนทำให้ปากแห้ง ส่วนตัวสีนี่กลบสีปากได้ดี จะออกชมพูออมแดง เป็นสีที่สวย เหมาะกับทุกโอกาส เป็นสีที่ทาบ่อยที่สุดในปีนี้เลย

#BOND GIRL
รุ่น matte อีกตัว ที่จะออกแดงนํ้าตาล ดูเป็นผู้ใหญ่แต่ไม่ทำให้ดูแก่


จบแล้ววววว ยาวมากๆเลย มีอะไรติชมกันได้น๊า Happy New Year ผู้อ่านทุกคนนะคะ ไว้เจอกันใหม่บล๊อคหน้าหลังปีใหม่ค่ะ :)

6 comments :

  1. รองพื้นชาลอตน่าใช้มากเลยค่ะ อยากสอบถามว่าใช้เบอร์อะไรหรอคะ :)

    ReplyDelete
  2. รองพื้นชาลอตน่าใช้มากเลยค่ะ อยากสอบถามว่าใช้เบอร์อะไรหรอคะ :)

    ReplyDelete
    Replies
    1. ถ้าเป็นรุ่น Magic เราใช้ #4 Fair ค่ะ
      อีกรุ่นจะเป็น #3 Fair ค่ะ

      ;)

      Delete
  3. ขอบคุณค่า อ่านเพลินมาก สีผิวประมาณไหนหรอคะ อยากได้รองพื้นกับคูชั่นมากก อิอิ

    ReplyDelete
  4. ถ้าทารองพื้นแล้วต่อด้วยคุชั่นแล้วค่อยลงแป้งแอร์บัชของทรูบิลี่ได้รึเปล่าคะมันจะดูหน้าขาวหลอกไปมั้ยคะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. เราว่ามันจะหนักเกินไปค่ะ จะทำให้หน้าดูหนาเกินถ้าลงทั้งรองพื้นและคูชั่น เลือกอันนึงแล้วตามด้วยแป้งจะดีกว่าค่ะ

      Delete