วีซ่าอังกฤษฉบับคนว่างงาน 2018

วันนี้มาเรามาแบบมีสาระ~ เนื่องด้วยเราเพิ่งยื่น UK VISA ไปเมื่อวันที่ 30/04/2018 วันนี้ไปรับเล่มคืนมาแล้ว (10/04/2018) ซึ่งถ้านับจากวันทำการคือแค่ 8 วันเท่านั้น! เมื่อเทียบกับตอนยื่นวีซ่านักเรียนที่แบบเกือบเดือนอ่ะกว่าจะได้ แถมระหว่างรอนี่ยังมีการส่งเมล์มาอีกว่าการพิจารณาล่าช้าต้องยืดออกไป รอบนี้เลยแบบกลัวมากตุ้มๆต่อมว่าจะผ่านไหม แต่พอไปรับเล่มและเปิดออกมาเห็นวีซ่าแปะอยู่นี่โล่งอกมาก

ขอเกริ่นนิดนึงว่า ณ ปัจจุบันนี้ เราเป็นบุคคลว่างงาน ไม่มีเงินเดือน แล้วทำยังไง เตรียมเอกสารอะไรบ้างวีซ่าถึงผ่าน? ซึ่งเนื้อหาหลักๆของบล็อกนี้ก็จะเป็นเรื่องเอกสารที่เราใช้ ซึ่งเราก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการยื่นวีซ่าและว่างงานแบบเรา โดยเราขอข้ามเรื่องการกรอก Application Form ต่างๆไปเพราะเชื่อว่ามีคนทำรีวิวอธิบายไว้เยอะแล้ว

1. Background

เราเพิ่งออกจากงานเมื่อสิ้นเดือน กพ. ปัจจุบันและตอนที่ยื่นวีซ่าไม่มีเงินเดือน ไม่มีรายได้เข้าบัญชีธนาคารนอกจากเงินค่าเช่าคอนโดที่โอนเข้าบัญชีเราทุกเดือนๆละ 9000 บาทเท่านั้น มีเงินเก็บในบัญชีออมสินหลักหมื่น มีฉลากออมสินหลักแสนอีกหนึ่งใบ ที่นี้เราเลยจำเป็นต้องมี sponsor เพื่อทำให้การยื่นวีซ่ามีผลสำเร็จมากขึ้น ซึ่งเราเลือกให้พ่อเราเป็น sponsor ค่ะ เดี๋ยวจะมาพูดถึงตรงนี้ในพาร์ทล่างๆค่ะ

2. Personal Documents 

ส่วนตรงนี้จะเป็นส่วนหลักๆที่ใช้ในการประกอบการตัดสินผลวีซ่านะคะ หลักๆแล้วเราจะมีดังนี้

- Application Form ที่กรอกครบถ้วนสมบรูณ์ รวมไปถึงตรงที่เป็นในส่วนของอาชีพและรายได้ เราเลือกตอบเป็น SELF EMPLOYED เพราะที่บ้านเรามีร้านอาหารเลยเลือกตรงนี้ และใส่เหตุผลเพิ่มเติมไปในตอนท้ายเอานะคะ ในส่วนของรายได้เราแอบโม้ไปว่ามีรายได้ประมาณ 570 GBP ต่อเดือนค่ะ 

- Declaration Form and Appointment Confirmation อย่าลืมเด็ดขาด

- Cover Letter จดหมายแนะนำตัว อันนี้สำคัญมาก เพราะมันคือการบอกเค้าว่าเราเป็นใคร ทำอะไรอยู่บ้าง (*ตัวนี้เป็นตัวที่เราไม่ได้คืนหลังรับเล่มค่ะ) เราก็เขียนไปหมดทุกอย่าง ว่าเคยทำงานที่ไหน ตอนนี้ทำไร แพลนจะไปทำไร ทำไมถึงไป เดินทางกับใคร ในที่นี้จริงๆเราไปกับเพื่อนค่ะเลยใส่ชื่อเพื่อนไปด้วย และแม่ก็ยื่นวีซ่าด้วยทั้งๆที่ไม่ได้ไปด้วย แต่อยากทำ -.- เผื่อไว้ไปในอนาคตเพราะแม่ทำแบบ 2ปี เลย และเพื่อช่วยให้วีซ่าเราผ่านง่ายขึ้นเพราะเดินทางกับแม่ซึ่งเราว่ามีส่วนค่ะ ไม่ได้เดินทางคนเดียว แถมมีคน sponsor จะทำให้วีซ่าผ่านง่ายขึ้น 

- Bank Statement เรายื่นไปสองอย่างคือ ฉลากออมสิน ให้เค้าออกเป็น statement ให้เป็นจำนวนเงิน  GBP (*ออมสินตัวนี้เป็นตัวที่เราไม่ได้คืนหลังรับเล่มค่ะ) กับ Bank Statement ของ SCB ที่เป็นบัญชีใช้จ่ายหลักๆ มีเงินเดือนเข้าสมัยทำงาน มีเงินค่าเช่าเข้า ที่นี้เราให้แม่เราโอนเงินเข้าบัญชีไปก้อนนึงเพื่อขอ Statement ค่ะ พอยื่นเอกสารเสร็จก็คืนเงินแม่ไปเลย เพราะเราไม่ได้ยื่นบุ๊คตัวจริงไปมีแต่สำเนาค่ะ 

- Lease Agreement ที่เป็นสัญญาว่ามีคนมาเช่าคอนโดเรา (เป็นภาษาอังกฤษ) จ่ายรายเดือน โอนเข้าบัญชีเราทุกๆเดือน มีเลข-ชื่อบัญชีเราบอกชัดเจน โชคดีตรงที่คนเช่าเราเป็นต่างชาติ สัญญาเลยเป็นอังกฤษไม่ต้องเอาไปแปล

- Master's Degree Certificate อันนี้เพื่อเป็นตัวยืนยันว่าเราเรียนจบจากที่นู่นจริงตามที่บอกไปในจดหมายค่ะ ไม่จำเป็นต้องยื่นก็ได้ แต่ถ้าใครเป็นศิษย์เก่า UK ยื่นไว้ไม่เสียหายค่ะ

- Current and Old Passports ทั้งของจริงและที่ถ่ายเอกสาร

- Copy of House Registration ตัวนี้เรายื่นของเก่าที่เคยแปลไว้ตั้งแต่ตอน 2014 ที่ยื่นอันนี้เพราะมีชื่อพ่อ (Sponsor) ชื่อแม่ (ผู้ร่วมเดินทาง) เราไม่ได้ยื่นบัตรประชาชนนะ จนท.ไม่ได้ขอดูด้วย

3. Travel Documents

- Plane Tickets ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ของเราใช้แบบแลกไมล์เอา เลยออกมาเป็นตั๋วที่จ่ายเงินภาษีแล้ว แลกไมล์เรียบร้อย ส่วนของแม่เราเป็นตั๋วที่ให้บริษัททัวร์จองไว้แบบยังไม่จ่ายเงินค่ะ

- Accommodations จองแบบยังไม่เสียเงินไว้ก่อนค่ะ เลือก location ราคาแบบสมเหตุสมผลกับ budget ที่เรากรอกไปด้วยค่ะ

- Travel Itinerary เราทำละเอียดมากกกกกก มีทุกอย่างตั้งแต่ รร สถานที่ท่องเที่ยว ค่าข้าวแต่ละมื้อ ค่ารถไฟ ค่าแท๊กซี่ คือเราทำแบบนี้ให้ที่บ้านตอน 2014 ทุกคนก็ได้วีซ่ามาเลยคิดว่ายิ่งละเอียดเนี่ยแหละยิ่งดี

 (หากใครอยากได้เต็มๆทิ้งเม้นไว้ได้ค่ะ เดี๋ยวส่งไฟล์ให้ดูเป็นตัวอย่าง)

4. Sponsor Documents
 - Sponsorship Letter- อันนี้ก็สำคัญมาก เราเขียนเองสั้นๆละให้พ่อเซ็นค่ะ

- Bank Statement อันนี้ขอให้ทางธนาคารออกโดยกำกับมาเลยค่ะว่าเงินจำนวนนี้สามารถเป็นค่าใช้จ่ายให้ผู้สมัครยื่นวีซ่าได้ค่ะ โดยเค้าได้ระบุ ชื่อ-นามสกุลเราไว้เลย  (*ตัวนี้เป็นตัวที่เราไม่ได้คืนหลังรับเล่มค่ะ)

- Copy of Business Registration อันนี้เราไม่ได้แปลค่ะ ไม่แน่ใจว่าจำเป็นต้องแปลไหมเพราะของเพื่อนเราแปลค่ะ

- Copy of Bank Book อันนี้บัญชีของพ่อที่ใช้ออก statement ค่ะ เซ็นแค่หน้าแรก

- Copy of Current Passport อันนี้แค่หน้าแรกค่ะ ไม่ได้ทั้งเล่มเหมือนของตัวเอง

หมดแล้วค่ะ จริงๆแล้วเอกสารเราอาจจะไม่เยอะเท่าของคนอื่น แต่เราเน้นที่มันสำคัญจริงๆเช่น เรื่องเงิน แพลนเที่ยว ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ จดหมายทั้งสองอย่าง ส่วนตัวเรามองว่าเค้าน่าจะตัดสินจากตรงนี้เป็นหลัก 

หากมีคำถามหรือสงสัยตรงไหนถามได้นะคะ ถ้าช่วยได้ก็ยินดีที่จะช่วยค่ะ