SOCIAL MEDIA

Mar 25, 2016

TAIWAN EP00 ว่าด้วยเรื่องวีซ่าไต้หวันฉบับคนไม่มีงานประจำ


วันนี้เราจะมาพูดถึงการเตรียมตัวไปเที่ยวไต้หวันกัน โดยจุดหมายหลักของทริปนี้คือ ไทเป ส่วนเหตุจูงใจในการไปเที่ยวในครั้งนี้คือการไปหาเพื่อน เนื่องจากโดนกดดันมาตั้งแต่ปีที่แล้วว่าเมื่อไหร่จะมาหา ถามตลอดแทบจะทุกครั้งที่คุยกัน อีกอย่างคือตอนนี้คนเริ่มฮิตไปเที่ยวไต้หวันกันมากขึ้น มีรีวิวมายั่วยวน ทำให้เริ่มคิดว่า เออ ไต้หวันมันก็มีอะไรมากกว่าที่คิดไว้นะ โอเค! เจอกันเมษานี้แน่นอน

ก็เริ่มวางแผน ถามเพื่อนว่าว่างเมื่อไหร่ ติดงานไหม? ถ้าติดงานจะได้จองโรงแรมเพราะถ้าพักบ้านเพื่อนจะเที่ยวลำบากเนื่องจากบ้านเพื่อนอยู่ใกล้สนามบิน ไม่ได้อยู่ในตัวเมืองไทเป แต่เพื่อนบอกมาว่า นอนบ้านเลย ทำงานแค่วันละ 3 ชั่วโมง เสร็จแล้วเดี๋ยวพาเที่ยวต่อไม่ต้องห่วง เราก็โอเค ประหยัดค่าที่พักไปได้เยอะ หันมาดูตั๋วเครื่องบิน  ดูเอกสารเรื่องการยื่นวีซ่าซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากกับการไปเที่ยวครั้งนี้

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนยื่นวีซ่า
1. กรอกใบสมัครออนไลน์ แล้ว ปริ๊นไปวันยื่นให้เรียบร้อย

2. รูปถ่ายสี ฉากหลังขาว ขนาด 2x2นิ้ว จำนวน 2 รูป หรือให้บอกที่ร้านว่าวีซ่าไต้หวันก็ได้ 

3. หลักฐานทางการเงิน: ส่วนตัวแล้วใช้ bank statement ย้อนหลัง 6 เดือน  

4. หลักฐานการทำงาน: เนื่องจากว่าวันที่ยื่นนี่ยังไม่ได้ทำงานประจำ จึงแนบทะเบียนพาณิชย์ของกิจการที่บ้านไป พร้อมกับจดหมายแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ ว่าเราช่วยงานที่ธุรกิจบ้านอยู่นะ เป็นธุรกิจอะไร ทำหน้าที่อะไร จะไปเที่ยวกี่วัน เนื่องจากในทะเบียนพาณิชย์เป็นชื่อคุณพ่อ เจ้าหน้าที่เลยถามว่ามีเป็นอะไรกัน แล้วเค้าก็ดูชื่อในทะเบียนบ้าน อีกอย่างเราไม่ได้นำทะเบียนพาณิชย์ไปแปลเป็นภาษาอังกฤษก่อนนะ เราเขียนเลขจดทะเบียนลงไปในจดมหายแนะนำตัวแทน แต่แอบเห็นคนอื่นเค้าเอาไปแปลมีตรารับรองกันหมด ไม่แน่ใจว่าจำเป็นต้องแปลไหม แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ว่าอะไร

5. หลักฐานการจองตั๋วเครื่องบิน + ที่พัก: ที่พักเราจอง booking.com แบบจ่ายเงินทีหลังไป แล้วค่อยยกเลิกตอนวีซ่าผ่านแล้ว ส่วนตั๋วเครื่องบินเราจองของ EVA ผ่าน expedia ซึ่งมันตัดเงินเลย แต่ก็ไม่กลัวอะไรเพราะถามเพื่อนที่เคยไปเที่ยวบอกว่าตอนนั้นก็จองแล้วจ่ายเลยเพราะยังไงวีซ่าก็ผ่านแน่ๆแค่มีเงินในบัญชีพอ 

6. สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน

7. Passport ตัวจริง พร้อมสำเนาหน้าแรก เราไม่รู้เลยถ่ายทุกหน้าที่มีตราปั๊มเข้าออก เพราะคิดว่าคงจะต้องทำเหมือนตอนยื่นวีซ่าอังกฤษ เจ้าหน้าที่เห็นหัวเราะแล้วบอกไม่จำเป็นเลย แค่มีเล่มจริงก็พอแล้ว

8.  โปรแกรมเที่ยวภาษาอังกฤษ ซึ่งเราก็ทำไปแบบมั่วๆ พยายามดูถึงความเป็นจริงของการเดินทางจากสถานที่นึงไปสถานที่นึง ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ได้เปิดดูเลย 55555


ประสบการณ์ยื่นวีซ่าไต้หวัน
วีซ่าไต้หวันจะต่างกับวีซ่าอื่นๆที่เคยยื่นคือ จะไม่มีการนัดหรือจองล่วงหน้า สามารถไปยื่นเอกสารได้เลย ซึ่งตอนแรกเราก็คิอว่าเออดี ง่ายดีไม่วุ่นวาย จนไปยื่นมาจึงคิดว่า โปรดให้มีการนัดล่วงหน้าเถอะค่ะ!! ตอนหาข้อมูลในเนตต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าให้ไปรอคิวก่อนเวลาเปิดทำการ 

ด้วยความที่คิด(เอาเอง)ว่ามันคงไม่โหดขนาดนั้นหรอก เลยไปถึง 10.30 ซึ่งเปิดให้รับคิวตอน 9 โมงเช้า ดังนั้นคิวที่ได้เลยเป็น 157 เอิ่มมม..... แล้วคิวที่รันถึงตอนนั้นคือ 20 คุณลุงที่แจกคิวบอกว่าทำไมเพิ่งมาเอาป่านนี้ ดูคิวที่ได้สิ ไปๆหาไรกินก่อนค่อยกลับมาบ่าย2-3

เราเลยออกไป Central World หาไรกิน แล้วเดินเล่นรอจนกลับมาอีกทีตอนบ่ายสองโมงนิดหน่อย คิดว่าคงใกล้ถึงแล้ว แต่คิดผิดค่ะ! เพราะคิวมันเพิ่งจะถึง 80 ต้นๆ ก็คิดว่าทำไมมันช้าขนาดนี้ แม้ว่าจะมีช่องพิเศษสำหรับคนที่ยื่นเล่มเดียวเท่านั้นซึ่งตอนนั้นเรียกถึง 120 ผ่านไปสักเกือบชั่วโมงก็เรียกเพิ่มจนถึง 130 ก็ไม่เห็นมีคนไปยื่นเท่าไหร่ เลยคิดในใจแบบนี้อีกแป๊บเดียวเราคงได้ยื่น แต่สุดท้าย ตัดจบคิวเล่มเดียวแค่นั้นไม่เรียกต่อ 

ส่วนคิวปกตินี่เพิ่งถึง 100 โอ้โหหหหหหหหห......แต่พอเห็นพวกเอเจนซี่ที่มายื่นเป็น 10-20 เล่มเลยรู้แล้วว่าทำไมมันช้าขนาดนี้ เพราะคนที่ยื่นเล่มเดียวนี่คนนึงไม่ถึง 5 นาทีจริงๆ เราก็รอไปสิคะ จน 5โมงกว่าๆ ก็ถึงคิว ยื่นปุ๊บ ดูเอกสาร จ่ายเงิน จบ! ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที
.
.
มาถึงวันรับซึ่งตอนยื่นเสร็จก็ถามเจ้าหน้าที่หน้าประตูว่าควรมารับกี่โมง เริ่มแจกคิวเมื่อไหร่ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าเริ่มแจกเที่ยงๆ แต่ควรมารอตั้งแต่ 11 โมงนะ แต่ด้วยความเป็นคนขี้เกียจมาเร็ววันไปรับเลยไปถึงเที่ยงครึ่ง ได้คิวที่ 51 คุณลุงแจกคิวก็บอกไปกินข้าวก่อนค่อยกลับมาบ่ายสองครึ่ง ก็เลยขับรถไป Central World อีกเหมือนเดิม กลับมาอีกทีบ่ายสาม ก็เรียกถึงคิว 30 กว่าๆแล้ว ถือว่าเร็วมาก เพราะวันที่เรามายื่น บ่ายสามถึงจะเริ่มเรียกรับเล่มคืน รอไม่ถึงชั่วโมงก็รับเล่มมาเรียบร้อย กลับบ้านได้ :)

สุดท้ายแล้วอยากจะบอกว่า

* ควรไปก่อนเวลาเปิด 9 โมงจริงๆ ถ้าไม่อยากรอนานแล้วต้องเสียเวลาทั้งวัน

* จะใช้บริการเอเจนซี่ก็ได้ สะดวก ไม่เสียเวลา แต่ต้องเลือกเจ้าดีๆ เพราะบ้างเจ้าเราเห็นเค้าขึ้นว่าราคาวีซ่าได้ปรับขึ้นจาก 1500 บาท เป็น 1700 บาท บางเจ้าก็ 1800 ไหนจะมีค่าดำเนินการต่างหากอีก ซึ่งเรา ยื่นเมื่อวันที่ 22/03/2016 วีซ่ายังอยู่ที่ราคา 1500 บาท ตอนแรกนี่หยิบเงินมา 1700 เจ้าหน้าที่บอก 1500 ค่ะยังไม่ขึ้นนะ

* เตรียมเอกสารไปให้พร้อม เซ็นรับรองให้เรียบร้อย 

* ค่าจอดรถชั่วโมงละ 50 บาทนะ ปั๊มตราแล้วยังฟรีแค่ชั่วโมงเดียว วันที่ยื่นนี่กลับมารอคิวตอนบ่ายสรุปโดนไป 250 บาท ทางที่ดีควร bts 

แล้วเจอกันที่ไทเป 

No comments :

Post a Comment