ถ้าพูดถึงไต้หวันสิ่งแรกๆที่นึกออกเลยคือ อาหาร ที่ถูกปากคนไทยแล้วยังราคาโดนใจ โดยเฉพาะ hotpot แบบจีนนี่คือชอบเป็นการส่วนตัว เราเลยตั้งตารอมาก ถึงแม้ว่าจะมีเวลาอยู่ไต้หวันเต็มๆวันแค่ 2 เนื่องจากไฟท์ขาไปถึงก็สองทุ่มแล้ว แถมขากลับยังไฟท์เช้าอีก....แต่มันไม่ใช่อุปสรรคในการกินของเราเลยค่ะ จากที่ได้บอกไปแล้วจากบล๊อกที่แล้วว่าการไปไต้หวันในครั้งนี้จุดประสงค์หลักคือการไปหาเพื่อน ดังนั้นทริปนี้เราเลยได้เพื่อนพาเที่ยว (แม้ว่าจะไม่ได้เที่ยวไหนเลยก็ตาม) ทำให้เราได้กินอะไรที่มัน local จริงๆ
เกริ่นกันก่อนว่าทริปนี้เราจะไปอยู่กับ "ชิง" ซึ่งเป็นสาวไต้หวันที่ไปเจอกันตอนเรียนที่กลาสโกว์แล้วรู้สึกสนิทกันเหมือนเป็นสิบปี ชิง พูดตั้งแต่ยังเรียนอยู่ว่าให้ไปไต้หวันๆอยู่ฟรีกินฟรีพาเที่ยวเอง จนในที่สุดก็ได้มีโอกาสมา ต้องกราบขอบคุณสปอนเซอร์หลักอย่าง ชิง มาตรงที่นี้ด้วย
*ขออภัยล่วงหน้าที่บล๊อกนี้อาจจะไม่มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการวางแผนเที่ยว เป็นเพียงการแชร์ประสบการณ์เที่ยวไต้หวันของเราเท่านั้น
*แสงสีของรูปอาจจะเพี้ยนไปบ้าง เพราะเราปรับแค่ white balance ตอนถ่าย แล้วเอาลงเลยไม่ได้ อีดิทอะไรเพิ่ม
Day 1
ลงเครื่องมาตอนประมาณ 2 ทุ่ม หลังจากผ่านตม. ซื้อ sim card เรียบร้อย ก็เดินไปหาชิงที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน หลังจากนั้นชิงก็พาไปกิน hotpot เลย เพราะบอกนางไว้ว่าลงเครื่องปุ๊บพาไปกินเลยนะ อยากกินมากกกก...ร้านนี้จะอยู่แถวบ้านเพื่อนตรง Taoyuan เป็นร้านแบบบ้านๆของแท้ เมนูไม่มีภาษาอังกฤษ แต่มีรูปภาพกำกับ
ชิงสั่งนํ้าซุปมาสองแบบคือเผ็ดกับธรรมดา ซึ่งตัวซุปเผ็ดเนี่ยจะมีเลือดหมู เต้าหู้ นํ้าซุปอร่อยมาก กลมกล่อม รสชาติไม่ใช่แบบหม่าล่าเลยคือจะไม่มีกลิ่นเครื่องเทศแรงๆแบบนั้น ชอบมาก ส่วนในซุปใสก็จะมีผักต่างๆ กุ้ง หมูสามชั้นใส่มาให้ ถามชิงว่าปกติกินเครื่องในซุปไหม ชิงบอกซุปเผ็ดอ่ะกินได้พวกเลือดกับเต้าหู้ ตอนกินๆอยู่พนักงานก็มาเติมเครื่องให้ ส่วนซุปใสเพื่อนบอกปกติไม่กินเครื่องนะ แค่ใส่มาเพื่อรสชาติเฉยๆ ไม่แน่ใจว่าคนอื่นกินกันหรือเปล่า
ส่วนเนื้อนั้นถือว่าเด็ดมาก นุ่มแบบละลาย......สั่งเนื้อไปสามจาน จานละประมาณ 200-300 แต่คุณภาพนี่คือเกินราคามาก ถ้ากินที่ไทยนี่แพงกว่านี้ชัวร์หลังจากกินเสร็จชิงก็เลี้ยงไม่ยอมให้จ่าย แล้วก็ขับรถกลับบ้านกัน โดยมีแม่กับน้องสาวชิงรอต้อนรับอยู่ คือตอนนั้นเขินมาก >.< เพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรก แต่แม่นางใจดีมาก น้องนางก็น่ารัก คืออยู่ 3 คืนไม่รู้สึกอึดอัดเลย รู้สึกเหมือนอยู่บ้านจริงๆ แต่เกรงใจมาก เลี้ยงเราทุกมื้อ แวะเข้ามินิมาร์ทยังไม่ยอมให้จ่ายเอง
Day 2
วันนี้เรามีแพลนกันไว้ตั้งแต่เมื่อคืนว่าจะเข้าไทเป ไปเที่ยว ไปวัด ช้อปปิ้งอีกเล็กน้อย.....แต่พอถึงเวลาจริงๆแล้วทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปตามแพลนเลย ตอนที่ไปเป็นช่วงที่ฝนตกทุกวัน อารมณ์เดียวกับที่อังกฤษคือฟ้าครึ้ม ตกแบบปรอยๆบ้าง หนักบ้าง แต่ตกแป๊บเดียวก็หยุด แล้วก็ตกใหม่ ทำให้ไม่ได้ไปเที่ยวหลายๆที่ (ข้ออ้างทั้งนั้น)
วันนี้ตื่นเช้ามา ชิงก็พาไปสวนสาธารณะเล็กบนภูเขาแถวบ้าน อากาศสดชื่นมาก มองลงไปเห็นทั้งเมือง เสร็จแล้วชิงก็พาไปกินชานมไข่มุก แก้วใหญ่มาก 40 เหรียญเอง เป็นครั้งแรกที่กินชานมไข่มุกไม่หมดอ่ะ เราสั่งเป็นชานมอู่หลงใส่เฉาก๋วย ซึ่งเฉาก๋วยที่นี่จะเหมือนกับที่มาเก๊าคือนุ่มละมุนหอมกลิ่นสมุนไพร ดูดปรื๊ดๆลงคอเลย นุ่มมาก ชอบที่สุด
หลังจากนั้นก็ไปทานมื้อเช้า+เที่ยงที่เป็นแนว teppanyaki แต่เป็นสไตล์ไต้หวันนะ ชิงบอกร้านนี้เปิดถึงตี3 พอเที่ยงปุ๊บคนจะแน่นร้านยาวไปจนถึง ตี3 เลย ซึ่งของเราที่ชิงสั่งให้จะเป็นเนื้อผัดพริกไทยดำ ไข่เจียวโหระพา กับผัดผัก ส่วนตัวแล้วชอบผัดผักมากกว่าเนื้อ เพราะรู้สึกซอสที่ผัดมาในเนื้อมันรสแปลกๆ แต่ก็ถือเป็นมื้อที่อร่อยฟรีอีกมื้อ ชิงไม่ยอมให้จ่าย(อีกแล้ว) นางบอกว่า แม่นางให้เงินให้ 10,000 เหรียญให้พาเราไปกินของดีๆ เราแบบ โอ้โหหหหห เกรงใจ แล้วก็รู้สึกผิดมาก เพราะตอนนางมาไทย เราไม่ได้เลี้ยงเลย เนื่องจากไม่มีเงิน T___T สัญญากับตัวเองทันทีหลังจากทริปนี้ว่าถ้านางมาไทยอีกจะเลี้ยงนางทุกอย่างบ้าง!
กินเสร็จแล้วเพื่อนก็พาเข้าไทเป เพื่อทำภารกิจแรกนั่นคือไปซื้อ Suzy's Zoo ซึ่งตอนบอกชิงนี่นาง งง มาก แล้วบอกแบบ WTF is that? แม่กับน้องนางก็ไม่รู้จัก เลยเปิดรูปให้ดูแล้วบอกว่านี่ๆมีแค่ที่ร้าน PLAZA TOKYO นะ ซึ่งมีแต่ที่ญี่ปุ่นกับที่ไต้หวัน ไทยไม่มีนะ รู้ไหมว่ามันหายากขนาดไหน นางก็เออออ แม่นางเลยบอกนางพรุ่งนี้เช้ากินข้าวเสร็จพาให้ไปเลยนะ รักคุณแม่ที่สุด ^.^
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiCt1jpPtyPdVz3FCawBRKxDFPfaIcLBh41gVYPb83Tpda8y3jcWgQg6fii_uIjyLaQY82JHhapATknUk_zW7qHrl8OirGvYFdr7mUj5Sl3jDJdDU1bNLV07CxUBd9ol9bTl-t1rGOg654/s640/DSC02416.jpg)
สุดท้ายค่าเสียหายทั้งสิ้นก็ประมาณ 7,000 เหรียญ โดยส่วนมากของที่ได้กลายเป็น KUMATAN แทน เพราะ Suzy's Zoo มีแต่ของรุ่นเก่าที่เรามีอยู่แล้ว ชิงนี่กลอกตาแล้วกลอกตาอีก บ่นนิดหน่อยว่าของไรสาระแต่ก็ไม่ว่าอะไร แถมให้เวลาเราอยู่ในร้านเต็มที่ 55555 นางเข้าใจ
หลังจากนั้นนางก็พาไปย่านฮิปๆวัยรุ่นเดินที่เราไม่เจอนักท่องเที่ยวเลยซักคน นางบอกไม่ชอบนางไม่ชอบ Ximending คนเยอะแล้วมีแต่นักท่องเที่ยว เราเองก็ไม่เคยไปเลยตามใจคนพาเที่ยว ซึ่งนางพามาที่ย่านนี้ 東區 (อ่านว่าอะไรไม่รู้ ถามว่าภาษาอังกฤษล่ะ? ชิงบอกไม่รู้เหมือนกัน) พอเดินๆไปเรากลับนึกไปถึงย่าน ฮงแด ที่โซล เพราะร้านค้าต่างๆ รวมไปถึงมีผับ มีบาร์ตามข้างทาง แม้ว่าคนจะไม่เยอะแยะพลุกพล่านเหมือนฮงแด แต่ก็ให้อารมณ์ย่านวัยรุ่นของจริง ที่สำคัญเป็นย่านที่คนท้องถิ่นมาเดินกันจริงๆ
แวะกิน Honey Toast เจ้า(คิดว่า)ดังของไต้หวัน ชื่อ Dazzling Cafe ร้านสวย หวาน น่ารัก แต่รสชาติ ไม่โอเคเลย After You บ้านเราอร่อยกว่าเยอะ ตอนแรกเราอยากเข้าร้านเบอร์เกอร์ข้างๆมากแต่ยังอิ่มอยู่ ชิงบอกแนวเดียวกับ In-N-Out เราเลยยิ่งอยากกินไปใหญ่ แต่ไม่สามารถจริงๆพอเริ่มเย็นก็ขับรถกลับบ้านกันเพราะแม่ชิงจะพาไปเลี้ยงข้าว เย่!!! พอถึงบ้านก็พักผ่อนละออกไปกินข้าวแถวบ้านกัน เป็นร้านซีฟู๊ด โดยที่อาหารสั่งมากันเยอะมาก เกิน 10 อย่าง แล้วก็เหลือทุกอย่าง 5555 เสร็จแล้วตอนแรกว่าจะไปเดิน Night Market กัน แต่ฝนตก+ขี้เกียจเลยกลับบ้านกัน ถึงบ้านพักซักแป๊บชิงชวนไปดูหนังเรื่อง The Huntsman ก็โอเคไปกัน ทำให้รู้ว่าโรงหนังบ้านเราดีกว่า สะอาดกว่า หรือเป็นเพราะที่ไปดูเป็นห้างแถวบ้านก็ไม่แน่ใจ แต่ถือว่าเป็นห้างที่ใหญ่มากเหมือนกันนะ แต่รู้สึกได้เลยว่าโรงหนังบ้านเราดีกว่าเค้าเยอะ ไม่รู้ว่าถ้าในตัวเมืองไทเปจะเป็นยังไง
Day 3
วันนี้ชิงขับรถพาออกไปนอกเมืองเลยเกือบ 2 ชั่วโมง เพื่อไปกินเป็ด...........ขอท้าวความกันก่อน โดยนางพูดถึงเป็ดร้านนี้ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันตอนอยู่กลาสโกว์เลย แล้วก็พูดถึงเรื่อยๆ บอกว่าถ้ามาไต้หวันยังไงก็ต้องพามากกินที่นี่ให้ได้ เราก็โอเค ไม่ได้อะไรเพราะเป็นคนเฉยๆกับเป็ดอยู่แล้ว จนมาวันนี้ที่ชิงบอกจะพาไป เราก็นึกไปถึงวันแรกที่รู้จักกันแล้วนางพูดให้ฟังตลอด ก็เกิดความคาดหวังว่ามันต้องเลิศมาก มันต้องคุ้มมากกับการขับรถจากบ้านมาเกือบ 2 ชั่วโมงเพื่อเป็ดปักกิ่งตัวเดียว
ร้านอาหารนี้อยู่บนโรงแรม Silks Place Yilan เป็นร้านอาหารจีน ที่พอเข้าไปแล้วทุกโต๊ะสั่งเหมือนกันคือเป็ดปักกิ่ง แต่ทีเด็ดของเป็ดที่นี่ ไม่ใช่เป็ดปักกิ่งแบบทั่วไปแต่เป็นซูชิเป็ดปักกิ่งชีส คือพอกันเข้าไปมันจากหนังเป็ดจะพุ่งกระจายเต็มปาก ชีสก็จะเค็มๆมันๆ ไม่มีกลิ่นเป็ดเลยด้วย อร่อยมากกกกกกกกก สมกับคำคุย......แต่กินได้2-3คำก็เลี่ยนแล้ว ส่วนเนื้อเป็ดที่เหลือก็จะเอาไปทำได้อีก 4 อย่าง ยังไม่รวม เป็ดปักกิ่งแบบปกติที่เรามักจะกินกัน สรุปก็เหลือทุกอย่างตามเคย ต้องห่อกลับ เช๊คบิลออกมา 3,000 กว่าเหรียญ มื้อนี้เราเลี้ยงเอง! เกรงใจจะแย่ ต้องขอร้องนางว่า ขอจ่ายเหอะนะ พรีสสสส let me pay นางถึงยอม
กินเสร็จก็กลับบ้านกัน เพราะนัดเพื่อนอีกคนไว้ไปกิน hotpot กันในไทเป เสร็จแล้วจะไปนั่งชิวที่บาร์กับเพื่อนของชิงกันต่อ เลยไปทำผมกัน.....คือเวลาเหลือเยอะมาก แล้วไม่ไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวด้วยนะ =0=
พวกเรานัดกับเพื่อนอีกคนไว้ในไทเปทุ่มนึงเพื่อไปกิน hotpot คราวนี้เป็นแบบ buffet ซึ่งคุณภาพเนื้อนั้นก็ดีกว่าบ้านเรามาก มี Häagen-Dazs รวมไปถึงนํ้าด้วยไม่อั้น เพื่อนที่นัดไว้อีกคนชื่อว่า โจแอน ไปเจอกันตอนเรียนที่กลาสโกว์เหมือนกัน คือเจอกันครั้งสุดท้ายก็ตอนไปรับปริญญาเมื่อพย.ปีที่แล้ว ก็เลยเกิดการอัพเดทชีวิตกันไปกินไป happy~~ กินเสร็จแล้วก็แยกย้ายกับโจแอนเพื่อไปหาเพื่อนชิงอีกคนต่อที่บาร์
ไปบาร์ที่ชื่อว่า Barcode ชิงบอกเป็นหนึ่งในที่ๆนางมาประจำ แล้วก็สนิทกับบาร์เทนเดอร์ ซึ่งนางสนิทจริง เพราะบาร์เทนเดอร์นี่เอะอะเอา วิสกี้ชอต มาให้กิน ทำคอกเทลให้แบบตามอารมณ์ ซึ่งนางทำมาสามแก้ว เราชอบแค่แก้วเดียว 555 นั่งรอเพื่อนชิงประมาณ ครึ่งชั่วโมง ก็มาโดยเพื่อนคนนี้เราเคยเจอแล้วตอนไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ปารีส เค้าเป็นเพื่อนกับชิงจากตอนเรียนที่อเมริกา ชื่อแอนดรูว คือนาง หล่อ รวย มีแฟนแล้ว 5555 แต่ตลกและเฟรนด์ลี่มาก ตอนเจอที่ปารีสยังไม่ค่อยได้คุยกันเพราะเราเหนื่อยๆ ไม่คิดว่าจะตลกขนาดนี้ นางบอกเคยมาไทยเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว แต่เคืองอย่างนึงคือนางถามว่า คนไทยขี้ช้างกันเป็นปกติใช่ไหม เรานี่แบบ = =++++ จะบ้าเหรอ! ในสวนสัตว์กับตามแหล่งท่องเที่ยวบางที่เท่านั้นแหละ นางก็เลยขอโทษๆไม่รู้ นางมีการถามมีแฟนยัง? อยากมีไหมเดี๋ยวแนะนำหนุ่มให้ เราก็จ้าาาา
นั่งคุยเล่นชิวๆกันไปก็มีเพื่อนอีกคนมา คนนี้มาจาก แอฟริกาใต้ แต่ไปเรียนต่อที่ อเมริกาเหมือนกัน ส่วนบาร์เทนเดอนี่ก็ เอาชอตมาให้เรื่อยๆ จนถึงประมาณเที่ยงคืนเรากับชิงก็ขอกลับ เพราะเรามีไฟท์เช้า แอนดรูวแบบไม่ต้องกลับอยู่ต่อ! นี่บอกไม่ได้!ต้องกลับไปทำงาน นางเลยแบบ โอเคๆ เจอกันประเทศไทย เรียกเก็บเงินคือบิลออกมาถูกมาก ชิงจ่ายอีกแล้ว พวกผู้ชายไม่ยอมๆก็ยัดเงินใส่มือชิง เราจะยัดบ้างชิงก็ไม่ยอม แต่ก่อนจะออกก็โดนวิสกี้ชอตกันไปอีกคนละชอต พอออกมาชิงบอกว่าบาร์เทนเดอร์ลดให้นะ มิหน่าล่ะถึงถูกขนาดนั้น แล้วก็ถ่ายรูปกันหน้าร้านเรากับชิงก็กลับ พวกผู้ชายก็ขึ้นไปดื่มต่อ
Day 4
วันนี้ตื่นเช้ามาก็ต้องรีบเก็บของไปสนามบิน ชิงนี่ยังมึนๆขับรถมาส่ง พาไปเช๊คอินแล้วก็กลับไปนอนต่อ 555555 ส่วนเราด้วยความเอ๋อหรือไรไม่รู้ เดินไปเกท 10 อย่างมั่นใจมาก ไปเข้าห้องนํ้า นั่งเล่น เงยหน้ามอง ทำไมมันขึ้นว่าไปที่อื่นวะ แล้วคนนั่งก็มีแต่ดูไม่ใช่คนไทย เลยหยิบตั๋วมาดู อิชิบห..เกท 1 นี่อยู่ 10 โอ้โหหหห วิ่งเลยจ้า เหมือนจากเหนือไปใต้เพราะมันอยู่สุดของแต่ละด้านเลย ต้องมีเรื่องให้วิ่งตลอดที่สนามบิน แต่สุดท้ายก็ขึ้นบินอย่างปลอดภัยหลับตลอดทางจนถึงไทย เป็นอันจบทริป ไต้หวัน
Thank you to my dear Ching for your amazing hospitality. It was very nice to be there and spent my vacation with you :) It was nice catching up with you as well Joanne, hope we can spend more time together next time we meet. Nice to see you again Andrew, and it was very nice to meet you Adam. I will definitely come back!
No comments :
Post a Comment