SOCIAL MEDIA

Nov 28, 2016

SeoulMuchTrip in Fall 2016 EP03 ใบไม้เปลี่ยนสี ฝน หมอกหนา และ ลมหนาว


Day4
วันนี้ตื่นมาพร้อมกับฝนปรอยๆ ตั้งใจว่าจะไป Hanuel Park กัน ซึ่งพอไปถึงออกนอกสถานีรถไฟใต้ดินปุ๊บนี่โดนทั้งลมทั้งฝน หนาวแบบมือเย็นไปหมด

ไป Hanuel Parkครั้งนี้เป็นการมาครั้งที่สองของเรากับเพื่อนอีกคน ซึ่งครั้งแรกของเพื่อนนั้นมันบอกว่าเหนื่อยมากกก.. เดินขึ้นบันไดวนๆไป ขาลาก เมื่อยสุด นี่เลยหันไปบอกว่า ไม่รู้หรอไงว่าเค้ามีกอล์ฟรถรับ-ส่ง ไม่ต้องเดินแต่ต้องจ่ายเงิน เพื่อนแบบ ห้ะ! แล้วแบบครั้งที่แล้วเดินขาลากไปเพื่อไร? เลยพาเพื่อนไปต่อคิวขึ้นรถกอล์ฟกลางสายฝน ส่วนเพื่อนอีกคนก็ไปซื้อตั๋วมาให้ แต่พอจะถึงคิวขึ้นรถแล้วฝนเทลงหนักกว่าเดิม พวกเราเลยออกจากคิวเพื่อหลบตรงป้ายรถกอล์ฟ เพื่อนอีกคนเลยเสียสละไปต่อคิวให้ใหม่ ส่วนเรากับเพื่อนก็นั่งรอต้องป้ายรถกอล์ฟจนเพื่อนเข้าคิวมาถึงอีกรอบเป็นช่วงที่ฝนซาพอดี จึงได้ฤกษ์ขึ้นรถ


หลังจากนั้นก็ไปต่อกันที่ Cafe' Dior เพื่อนเรียกร้องอยากไปมากเพราะเห็นจากใน IG คือยังไงก็ต้องไปให้ได้  ซึ่งถ้าต้องการมุมฮิตที่เห็นคือต้องนั่งข้างนอก แล้ววันที่ไปฝนก็ตกทั้งวันเลยต้องนั่งข้างใน อดถ่ายรูป ก็ไม่เป็นไร ไหนๆก็มาแล้วก็สั่งขนมกินเฉยๆก็ได้ สั่งไปขนมไปสองอย่าง ชา กับ โกโก้ร้อนอีกอย่างละหนึ่ง พอชามาเสริฟก็มีแก้วมาแคชุดเดียวเลยบอกขออีกชุด พนักงานบอกไม่ได้ ชาทีนึงสำหนับคนเดียว ต้องสั่งเพิ่มอีกชุด ก็เลยเออโอเค เอาอีกชุดนึงค่ะ ที่นี่พอมีออเดอร์ปุ๊บเชฟก็จะออกมาทำที่ละจานต้องครัวแบบเปิดให้เราเห็น ทำเสร็จก็เดินกลับเข้าไปข้างหลังเหมือนเดิม

(เซนเซอร์หน้านิดนึง หน้ามีความเพลียจากการเดินตากฝนมาก 555)

ขนมที่กินนั้นพูดแบบตรงๆเลยคือเฉยมาก หวาน ไม่ได้มีความประทับใจเลย แล้วพอบิลออกมา ช๊อคกันกับราคามาก คือตอนสั่งก็เห็นราคาแต่ละจานแล้วแหละแต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะแพงขนาดนี้ 136,000 วอน สำหรับของหวาน เสียดายเงินมาก ไม่คุ้มเลยแถมรูปก็ไม่ได้ถ่ายอีก ครั้งเดียวเกินพอแล้วจริงๆสำหรับร้านนี้

จากนั้นเราก็เดินกันต่อไปเลยๆเพื่อไป Moomin&Me  เป็นร้านขายของชั้นแรก ชั้นบนจะเป็นคาเฟ่ที่มีคนมากินกันเยอะเหมือนกัน ส่วนใหญ่เป็นคู่รักวัยรุ่นไม่ก็แม่ลูก ส่วนชั้นใต้ดินเป็นเหมือน Playground เล็กๆให้เด็กมาถ่ายรูปกับดูการ์ตูน

มื้อเย็นพวกเรากลับมากันที่ฮงแด หลังจากเก็บของที่ห้องกันเรียบร้อย ก็มุ่งหน้าไปหาร้านจิมดัก ที่ Jinseouk เป็นคนแนะนำมา ร้าน Bongchu Jimdak อยู่แถวร้าน New Balance ตอนแรกก็เดินหาไม่เจอ เลยถามเด็กเกาหลี น่ารักมากกกก น้องผู้หญิงสองคน ตลกด้วย คือตอนแรกพวกนางจะให้ไปอีกสาขานึงซึ่งไกลมาก และนางก็พูดแบบ โอ๊ะ โอ๊ะ!! ตรงนี้มีๆ เดี๋ยวพาเดินไปที่ร้าน เดินไปส่งไม่กี่ก้าวถึง ฮาาาาาาาาา พวกนางก็บอกว่ากินให้อร่อยนะ 


ร้านนี้จะอยู่ชั้นสอง คนเยอะเต็มเกือบทุกโต๊ะ เมนูมีแค่จิมดักเป็นอย่างหลักแล้วก็ให้เลือกแบบเส้น ไซส์ ระดับความเผ็ด มีข้าวให้เลือกสองแบบคือ ข้าวสวยหรือข้าวผัด ร้านนี้เป็นอีกร้านที่ยกให้เป็นอันดับ 1 ของทริปนี้เลย คือไก่อร่อยมาก เส้นก็หนุบหนับ มันฝรั่งก็อร่อย คืออร่อยทุกอย่างจริงๆ แนะนำให้ไปลอง

ไปกิน Frozen Yogurt ร้าน YOGORINO ที่ Zico วง Block B เป็นเจ้าของ ส่วนตัวว่ารสมันออกนมๆมากกว่าที่จะเป็น Yogurt แบบที่เคยกินที่อื่นร้านนี้จะอยู่ในซอยที่เป็นทางไป Stylenanda ส่วนตัวไม่ให้ผ่าน เลยไปต่อกันที่ Sulbing เป็นอันจบวัน


Day5
วันนี้เป็นวันเก็บตกช้อปปิ้งพวกขนมของฝากทั้งหลาย เลยรีบตื่นไป Lotte Mart ที่ Seoul Station กันแต่เช้าเพราะว่าต้องรีบกลับมาแพ๊คของเพื่อที่จะไปสนามบินตอนบ่ายสอง แนะนำให้คนที่จะซื้อพวกขนมของฝากอะไรต่างๆไปซื้อที่ Lotte Mart เพราะของจะเยอะมาก มีทุกอย่างที่อยากได้ รวมถึงเครื่องสำอางต่างๆด้วย แพรก็ได้โฟมล้างหน้าของ COSRX ที่ตอนแรกหาที่อื่นไม่ได้ก็มาได้ที่นี่ หรือจะไป E-Mart ที่มีหลายสาขาในโซล ตรงกังนัมก็มี ส่วนตัวแพร์เคยไปตรงแถวอินชอน โดยการไปสนามบินก่อนเวลาซักหน่อยแล้วก็นั่งรถ Shuttle Bus  ของ Best Western ไปลงที่โรงแรมแล้วเดินไป E-Mart เอาเพราะว่าของจะถูกกว่า พอได้ของครบทุกอย่างก็กลับมาแพ๊คของแล้วออกไปหาอะไรกินที่ฮงแดอีก ก่อนจะกลับมาเอากระเป๋าแล้วนั่ง Arex ไปสนามบิน 

อย่างที่บอกกันไปตอนแรกว่า สายการบินให้นำ้หนักแค่ 15 กก.  ต่อคน ด้วยความที่เรากับเพื่อนมักจะนั่งการบินไทยซึ่งให้นำ้หนัก 30 กก. แล้วยังเป็นซิลเวอร์เลยได้บวกเพิ่มอีก 10 กก. รวมเป็น 40 กก. ต่อคน ทำให้เวลามาเกาหลีไม่เคยนํ้าหนักเกิน ก็เลยซื้อของกันแหลกไม่สนใจเรื่องนำ้หนัก ปรากฏว่าตอนเช๊คอินนำ้หนักกระเป๋าประมาณ 23 กก. ของเพื่อนอีกคนนี่เกินมาเป็น 10 กก. แล้วพนักงานก็แบบบอกว่าต้องจ่ายเงินเพิ่มนะ ไม่งั้นก็ต้องทิ้งของ พวกเราเลยขอรีแพ๊คก่อนนะ ใส่ถุงใส่กระเป๋าเป้ carry-on จนหลังแทบจะหัก จนของเราเหลือ 19 กก.เพราะมันยัดไม่ได้แล้วจริงๆ สุดท้ายก็ต้องจ่ายเพิ่มไป 4 กก. ของเพื่อนก็จ่ายเพิ่มไป เสร็จแล้วก็รีบเข้าไปข้างในเพื่อไปทำ Tax Refund แล้วก็รีบวิ่งไปซื้อไรกินทั้งๆที่แบกถุงสะพายเป้รุงรังมาก วิ่งไปที่เกตนั่งได้ 5 นาทีก็เรียกขึ้นเครื่อง 

จบทริปที่มันทั้ง กินเยอะ ช้อปปิ้งเยอะ เดินเยอะ ถ่ายรูปเยอะ จนเป็นที่มาของ SeoulMuchTrip เพราะมันเยอะทุกอย่างจริงๆ 

No comments :

Post a Comment